ก.ค.ศ. ประกาศรายชื่อครูที่เอกสารไม่สมบูรณ์ ส่งคืนคำร้องขอย้าย สังกัด สพฐ.

สร้างโอกาสให้ครูแก้ไขเอกสารสมบูรณ์ ก่อนปิดรับคำร้องขอย้าย

สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ได้ออกมาประกาศรายชื่อข้าราชการครูที่มีเอกสารหลักฐานไม่สมบูรณ์ และผู้อำนวยการสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ส่งคืนคำร้องขอย้ายของครูเหล่านี้ ซึ่งเป็นผลจากการตรวจสอบของ ก.ค.ศ. ที่พบว่า มีครูจำนวน 170 ราย ที่มีคุณสมบัติในการขอย้าย แต่เอกสารหลักฐานไม่ครบถ้วน

เปิดโอกาสให้ครูแก้ไขเอกสารภายในกำหนด

เพื่อให้ครูเหล่านี้ไม่เสียสิทธิ์ในการยื่นคำร้องขอย้าย ก.ค.ศ. จึงเปิดโอกาสให้ครูที่มีรายชื่อตามที่ประกาศ สามารถเข้าใช้งานในระบบ TRS เพื่อแนบเอกสารหลักฐานให้ครบถ้วนสมบูรณ์ โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 15.00 น.

ทั้งนี้ ก.ค.ศ. จะส่งอีเมลแจ้งครูทั้ง 170 ราย เพื่อทราบ และขอความร่วมมือจาก สพท./ส่วนราชการ ให้แจ้งสถานศึกษาของครูที่มีรายชื่อดังกล่าวทราบ เพื่อตรวจสอบ/ให้ความเห็น และบันทึกคำร้องขอย้ายในระบบ TRS ภายในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 24.00 น.

ระบบจะไม่รับคำร้องขอย้ายหากพ้นกำหนดเวลา

หากครูไม่สามารถดำเนินการแก้ไขเอกสารและบันทึกคำร้องขอย้ายในระบบ TRS ภายในเวลาที่กำหนด ระบบจะไม่นำคำร้องขอย้ายนั้นเข้าสู่กระบวนการพิจารณาย้ายในครั้งนี้ และถือเป็นอันยุติ

ดังนั้น ก.ค.ศ. จึงขอความร่วมมือจากครูที่มีรายชื่อประกาศ รีบตรวจสอบแก้ไขเอกสารให้ครบถ้วน และดำเนินการบันทึกคำร้องขอย้ายในระบบ TRS ภายในระยะเวลาที่กำหนด เพื่อให้ครูเหล่านี้ไม่เสียสิทธิ์ในการย้ายสถานศึกษา

ศธ. เร่งดำเนินการแจกอุปกรณ์ตามโครงการ Anywhere Anytime รอ กรมบัญชีกลางอนุมัติสเปค

เมื่อวันที่ 29 ม.ค.2568 นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยหลังการประชุมประสานภารกิจ ศธ. ว่า ที่ประชุมรับทราบมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เห็นชอบโครงการส่งเสริมการศึกษาเท่าเทียมด้วยระบบดิจิทัล และโครงการจัดหาอุปกรณ์การเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมสนับสนุนการเรียนรู้ทุกที่ทุกเวลา หรือ Anywhere Anytime งบประมาณ ระยะที่ 2 ปี เป็นงบผูกพันตั้งแต่ปี 2569-2573 จำนวน 29,765,253,600 บาท เพื่อจัดหาอุปกรณ์เสริมการสอนให้แก่นักเรียนและครูทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นแท็บเล็ต แล็บท็อป โน้ตบุ๊ค หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ในรูปแบบเช่าใช้งานพร้อมสัญญานอินเตอร์เน็ตคุณภาพสูง

ปี 2568 แจกอุปกรณ์เสริมให้นักเรียนชั้น ม.4-6 กว่า 6 แสนคน

ในปี 2568 ได้ขอจัดสรรเครื่องอุปกรณ์ดังกล่าวให้แก่นักเรียนจำนวนกว่า 6 แสนคนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ในกลุ่มโรงเรียนคุณภาพชุมชนและโรงเรียนขยายโอกาส ส่วนในปี 2569 ได้ขอจัดสรรงบประมาณไปจำนวน 2.9 หมื่นล้านบาทสำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายที่เหลือทั้งหมด ประมาณ 1.2 ล้านคน และขยายผลไปยังนักเรียนชั้นมัธยมต้นในโรงเรียนคุณภาพด้วย คาดว่า จะมีเด็กและครูได้รับอุปกรณ์เสริมการสอนรวมกว่า 1.8 ล้านคน

โครงการส่งเสริมการเรียนรู้อาชีวศึกษาทุกที่ทุกเวลา งบ 3,302 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังได้เห็นชอบให้ ศธ. โดย สอศ. ดำเนินโครงการส่งเสริมการเรียนรู้อาชีวศึกษาทุกที่ทุกเวลา งบประมาณ 3,302 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการจัดหาอุปกรณ์การเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมสนับสนุนการเรียนรู้ทุกที่ทุกเวลา 3,212 ล้านบาท สำหรับแจกให้ครูและนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)1-3 ประมาณ 159,332 ราย และโครงการผลิตสื่อวิดีทัศน์หรือสื่อโทรทัศน์เพื่อการศึกษาอาชีวศึกษา 90,000 บาท โดยอนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ระยะเวลา 4 ปี (ปีงบประมาณ 2569-2572)

ศธ. เร่งเตรียมดำเนินการเช่าอุปกรณ์เสริมแจกนักเรียนและครู

ในปีงบประมาณ 2568 ศธ. จะเริ่มดำเนินการเช่าอุปกรณ์เสริมเพื่อแจกนักเรียนและครู โดยขณะนี้ได้กำหนดสเปกและจัดทำร่างขอบเขตงานหรือทีโออาร์เสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ยังต้องหารือรายละเอียดบางส่วนกับกรมบัญชีกลาง ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆนี้ เพื่อให้สามารถดำเนินการได้ทันภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา2568

เน้นคุณภาพและมาตรฐานของผู้เข้าร่วมประกวดราคา

ศธ. ให้ความสำคัญกับมาตรฐานและคุณภาพของบริษัทที่จะเข้าร่วมประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ หรืออี-บิดดิ้ง โดยบริษัทดังกล่าวจะต้องเป็นบริษัทที่ได้มาตรฐาน มีผลงานและไม่เคยมีปัญหากับภาครัฐ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อกฎหมาย

ศธ. ติดตามเด็กนอกระบบการศึกษาเชิงระบบ

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังรับทราบการวิเคราะห์สภาวะการศึกษาไทยของ TESA DASHBOARD ไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2568 ซึ่งชี้ให้เห็นว่า ผลการวิเคราะห์ลึกลงไปในการสอบ PISA 2022 ประเทศไทยมีกลุ่มเด็กช้างเผือกอยู่ถึง 15% ซึ่งมากกว่ากลุ่มประเทศสมาชิกที่มีอยู่เพียง 10% โดย พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ฝากแต่ละองค์กรหลักช่วยกันคิด ช่วยกันเสนอแนะเพื่อส่งเสริมเด็กกลุ่มดังกล่าว และพัฒนาการจัดการศึกษาเด็กทั่วไป ส่วนการติดตามเด็กนอกระบบการศึกษาเชิงระบบ ศธ. จะสามารถดูข้อมูลเด็กที่หลุดจากระบบการศึกษาตามทะเบียนราษฎรได้ทั้งหมด 100% ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งจะทำให้รู้ปัญหา และสามารถตามตัวเด็กกลับเข้าระบบการศึกษาได้มากขึ้น หรือสามารถจัดการศึกษาได้ตามบริบทของผู้เรียน

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll to Top