Cybersecurity Wordpress

การป้องกัน WordPress จาก DDoS Attack

WordPress เป็นระบบจัดการเนื้อหา (CMS) ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก แต่ด้วยความนิยมนี้เองทำให้มันกลายเป็นเป้าหมายของการโจมตีทางไซเบอร์ โดยเฉพาะ DDoS Attack ต่อไปนี้เป็นวิธีการป้องกัน WordPress ของคุณจาก DDoS Attack:

1. ใช้บริการ CDN (Content Delivery Network)

CDN ช่วยกระจายโหลดของเว็บไซต์ไปยังเซิร์ฟเวอร์หลายแห่งทั่วโลก ทำให้เว็บไซต์สามารถรับมือกับทราฟฟิกจำนวนมากได้ดีขึ้น นอกจากนี้ CDN บางรายยังมีระบบป้องกัน DDoS ในตัว

ตัวอย่าง CDN ที่นิยมใช้กับ WordPress:

  • Cloudflare
  • Sucuri
  • StackPath

2. อัปเดต WordPress และปลั๊กอินอยู่เสมอ

การอัปเดตช่วยปิดช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่อาจถูกใช้ในการโจมตี:

  • ตั้งค่าให้ WordPress อัปเดตอัตโนมัติสำหรับการอัปเดตย่อย
  • ตรวจสอบและอัปเดตปลั๊กอินเป็นประจำ
  • ลบปลั๊กอินและธีมที่ไม่ได้ใช้งานออก

3. ใช้ปลั๊กอินรักษาความปลอดภัย

มีปลั๊กอินหลายตัวที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับ WordPress:

  • Wordfence Security
  • Sucuri Security
  • iThemes Security

ปลั๊กอินเหล่านี้มีฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น ไฟร์วอลล์, การจำกัด login attempts, และการสแกนมัลแวร์

4. กำหนดค่า Web Application Firewall (WAF)

WAF ช่วยกรองทราฟฟิกที่เป็นอันตราย โดยสามารถตั้งค่าได้ทั้งในระดับเซิร์ฟเวอร์หรือผ่าน CDN:

  • ใช้ WAF ของ Cloudflare หรือ Sucuri
  • ตั้งค่า ModSecurity บนเซิร์ฟเวอร์ Apache

5. จำกัด Rate Limiting

การจำกัดจำนวนคำขอจากแต่ละ IP ในช่วงเวลาหนึ่งช่วยลดผลกระทบจาก DDoS:

  • ใช้ปลั๊กอิน WP Limit Login Attempts
  • ตั้งค่า rate limiting ใน .htaccess file

6. ปรับแต่งการตั้งค่า PHP และ MySQL

การปรับแต่งการตั้งค่าเหล่านี้ช่วยให้เว็บไซต์รับมือกับโหลดสูงได้ดีขึ้น:

  • เพิ่มค่า memory_limit ใน php.ini
  • ปรับแต่ง max_connections ใน MySQL configuration

7. ใช้ Reverse Proxy

Reverse proxy ช่วยซ่อน WordPress server ตัวจริงและกรองทราฟฟิกที่เป็นอันตราย:

  • ใช้ Nginx เป็น reverse proxy หน้า Apache
  • ตั้งค่า HAProxy เพื่อ load balancing และกรองทราฟฟิก

8. มอนิเตอร์ทราฟฟิกอย่างสม่ำเสมอ

การติดตามทราฟฟิกช่วยให้คุณสังเกตเห็นความผิดปกติได้เร็ว:

  • ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ล็อกเช่น AWStats หรือ Webalizer
  • ตั้งค่าการแจ้งเตือนเมื่อทราฟฟิกสูงผิดปกติ

9. สำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ

แม้ไม่ได้ป้องกัน DDoS โดยตรง แต่การสำรองข้อมูลช่วยให้คุณกู้คืนเว็บไซต์ได้เร็วหากเกิดปัญหา:

  • ใช้ปลั๊กอินสำรองข้อมูลอัตโนมัติเช่น UpdraftPlus
  • เก็บสำเนาสำรองไว้ในหลายที่ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์

สรุป

การป้องกัน WordPress จาก DDoS Attack ต้องอาศัยการผสมผสานหลายวิธีเข้าด้วยกัน ตั้งแต่การใช้บริการ CDN ไปจนถึงการปรับแต่งเซิร์ฟเวอร์ การนำมาตรการเหล่านี้ไปใช้จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเว็บไซต์ WordPress ของคุณ และช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกโจมตีแบบ DDoS ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Detphong Unchat

Detphong Unchat

About Author

ชอบเรื่อง IT หลงใหล Wordpress หลงใหลการฟังเพลงเมทัล รักกาแฟ ชอบเล่นกีต้าร์และติด Com มากๆ

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

You may also like

Wordpress

ช่องโหว่ร้ายแรงใน WPML ภัยคุกคามต่อเว็บไซต์ WordPress หลายภาษา

There are many variations of passages of Lorem Ipsum available but the majority have suffered alteration in that some injected
Cybersecurity

“มัลแวร์ Emansrepo รุ่นใหม่โจมตีผู้ใช้ Windows ผ่านไฟล์ HTML”

ทีมนักวิจัยด้านความปลอดภัยไซเบอร์จาก Fortinet ได้ค้นพบมัลแวร์ตัวใหม่ชื่อ Emansrepo ที่กำลังโจมตีผู้ใช้ Windows โดยใช้ไฟล์ HTML เป็นอาวุธ Emansrepo เป็นมัลแวร์ประเภท infostealer ที่เขียนด้วยภาษา Python ถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อเดือนสิงหาคม 2567 โดยทีม FortiGuard Labs มันแพร่กระจายผ่านอีเมลฟิชชิ่งที่แนบใบสั่งซื้อและใบแจ้งหนี้ปลอม